
ทว่ายังมีอีกจุดหนึ่งที่น่าสังเกต นั่นคือปอมเปโอไม่ได้เรียกว่าผู้นำจีนว่า "ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง" "ประธานาธิบดีสี" หรือ "ประธานาธิบดีจีน" แต่ใช้คำว่า "เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน" หรือ "เลขาธิการสี จิ้นผิง" และการไม่เรียก "รัฐบาลปักกิ่ง" หรือ "รัฐบาลจีน" แต่ใช้คำว่า "พรรคคอมมิวนิสต์จีน"
ทั้งนี้ ในระหว่างการกล่าวถ้อยแถลงที่หอสมุดประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ปอมเปโอเรียกผู้นำจีนว่า "เลขาธิการสี จิ้นผิง" ซึ่งเซาท์ ไชนา มอร์นิง โพสต์ นับว่าเป็นครั้งที่ 15 แล้วในเดือนนี้ ที่นักการทูตหมายเลขหนึ่งของสหรัฐใช้คำดังกล่าว
ขณะที่เจ้าหน้าที่อีกหลายคนในรัฐบาลวอชิงตัน รวมถึงนายวิลเลียม บาร์ รมว.กระทรวงยุติธรรม นายโรเบิร์ต โอไบรอัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ และนายคริสโตเฟอร์ เรย์ ผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลาง ( เอฟบีไอ ) หันมาใช้คำเรียกแทนผู้นำจีนแบบเดียวกับปอมเปโอมากขึ้นด้วย แต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงเรียกผู้นำจีนว่า "ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง" และ "ประธานาธิบดีสี"
แม้ "ไม่ใช่เรื่องผิดมารยาททางการทูต" เนื่องจากปัจจุบันสีดำรงตำแหน่งอย่างเป็นทางการ 3 ตำแหน่ง คือ ประมุขแห่งรัฐ ประธานคณะกรรมาธิการทหารกลาง และเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ ซึ่งจะเห็นได้ว่าไม่มีตำแหน่ง "ประธานาธิบดี" แต่ในด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเป็นที่รับรู้กันว่า สีคือ "ประธานาธิบดี" ของจีน ด้านผู้สันทัดกรณีมองการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว "เป็นเจตนา" ในการส่งสัญญาณว่า รัฐบาลวอชิงตัน "ไม่ยอมรับ" อำนาจการปกครองของสี ควบคู่ไปกับการรื้อฟื้นกลยุทธ์แบบสงครามเย็น
ในอีกด้านหนึ่ง นายหวัง อี้ รมว.กระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวถึง "ความเปลี่ยนแปลง" ที่เกิดขึ้นกับความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลปักกิ่งกับรัฐบาลวอชิงตันในตอนนี้ ฝ่ายสหรัฐ "เป็นต้นเหตุทั้งสิ้น" และหวังว่าจะมีการร่วมมือกันอย่างจริงจัง เพื่อแก้ไขอุปสรรคให้ลุล่วง.
เครดิตภาพ : AP
July 26, 2020 at 04:33PM
https://ift.tt/32VonXN
สหรัฐฟื้นกลยุทธ์สงครามเย็น เปลี่ยนคำเรียกผู้นำจีน - เดลีนีวส์
https://ift.tt/3f8bRqU
Bagikan Berita Ini
0 Response to "สหรัฐฟื้นกลยุทธ์สงครามเย็น เปลี่ยนคำเรียกผู้นำจีน - เดลีนีวส์"
Post a Comment